จรวด,อาวุธนำวิถี ที่มีประจำการในประเทศไทย (Part1 Navy)

บทความกำลังมา..............!!!!!!!!
Coming Soon...................!!!!!!!!

แท่นยิงอาวุธนำวิถีแนวดิ่ง(VLS) แบบ MK41 หมัดเด็ดแห่งราชนาวีไทย

แท่นยิงอาวุธนำวิถีแนวดิ่ง(VLS) แบบ MK41 Mod 30 ที่ติดตั้งอยู่บนเรือหลวงชุดนเรศวร

ประวัติ

ปี 1976 แท่นยิงอาวุธนำวิถีแนวดิ่ง แบบ mk41ได้ถูกคิดค้นขึ้น โดยใช้แนวคิดของระบบป้องกันเอจิส แท่นยิงถูกสร้างมาเพื่อยิง จรวด RIM-66 Standard missile เท่านั้น แต่แล้วเมื่อกองทัพเรือสหรัฐได้ตัดสินใจเพิ่มขีดความสามารถให้แท่นยิง MK41 ด้วยการเพิ่มความสูงของแท่นยิงให้รองรับอาวุธนำวิถีที่ใหญ่มากขึ้นเพื่อยิงจรวดโทมาฮอค ต้นแบบได้ถูกทดลองบนเรือ USS Norton Sound (AVM-1) และเริ่มใช้งานจริงครั้งแรกบนเรือ USS Bunker Hill

Mk 41 มีความสามารถในการยิงขีปนาวุธต่อไปนี้

RIM-7 Sea Sparrow, RIM-66 Standard, RIM-67&156A Standard, RIM-161 Standard Missile 3, RIM-162 ESSM, RIM-174 Standard ERAM, RUM-139 VL-ASROC,Aster 30,Tomahawk,

จรวดจะถูกบรรจุอยู่ในกล่องก่อนจะถูกโหลดลงไปในช่องยิงจรวดหรือเซลล์อีกครั้งหนึ่ง กล่องบรรจุ ESSM Mk 25 Quad Pack canister หนึ่งกล่องสามารถบรรจุจรวดพื้นสู่อากาศ ESSM ได้ 4ลูก เรือหลวงชุดนเรศวรของเราใช้แท่นยิง MK41 Mod 30 จำนวน 8 cells(ท่อยิง) สามารถบรรจุจรวดพิ้นสู่อากาศ ESSM ได้ถึง 32ลูกต่อลำ โดยใช้ Saab CEROS 200 เป็นตัวนำวิถีและควบคุมการยิง

แท่นยิงอาวุธนำวิถีแนวดิ่ง(VLS) แบบ MK41 แบ่งออกเป็น 3 ขนาด
1.รุ่นป้องกันตัวเอง มีขนาด 209นิ้ว (5.3 เมตร) ขนาด 8 Cellsมีน้ำหนักแท่นยิงเปล่า 26800ปอนด์
2. รุ่นยุธวิธี มีขนาด 266นิ้ว (6.8 เมตร) ขนาด 8 Cellsมีน้ำหนักแท่นยิงเปล่า 29800ปอนด์
3. รุ่นจู่โจม มีขนาด 303นิ้ว (7.7 เมตร) ขนาด 8 Cellsมีน้ำหนักแท่นยิงเปล่า 32000ปอนด์

เมื่อแรกเริ่ม 1โมดูล ได้ถูกออกแบบให้มีขนาด 5 Cells + เครนที่สามารถบรรจุจรวดนำวิถีได้ในทะเล แต่การบรรจุจรวดนำวิถีขนาดใหญ่ในทะเลอันตรายเกินไปจึงได้ถอดเครนออกแล้วทำเป็น 8 Cells

ขอขอบคุณ
wikipedia.org

เรด้าร์สอดแนมอเนกประสงค์ Saab SEA GIRAFFE AMB ที่ถูกเลือกใช้ในเรือ ชุดเรือหลวงนเรศวร และ เรือหลวงจักรีนฤเบศร

Saab Sea Giraffe

เรด้าร์สอดแนมอเนกประสงค์ SEA GIRAFFE AMB ออกแบบมาเพื่อให้มีขีดความสามารถในการตรวจจับทั้ง บนฝั่ง ทะเล และในอากาศอย่างแม่นยำ ออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อระบบอำนวยการรบ 9LV (CMS) โดยเฉพาะ แต่ก็สามารถเชื่อมต่อกับระบบอำนวยการรบแบบอื่นได้ไม่ยาก  

เรดาร์ทำมุม 0-70 องศา สามารถคุ้มครอง ตรวจจับ ได้ครอบคลุมทั้ง 360 องศา มีตรวจการณ์ประมาณ 180 กิโลเมตร สามารถตรวจจับเป้าหมายที่มีความเร็วสูงอย่างแม่นยำ และตรวจจับได้แม้กระทั้งเป้าหมายที่เป็นวัตถุล่องหน ขนาดเล็กได้เป็นอย่างดี

ความสามารถ
GIRAFFE AMB เป็นเรดาร์ 3D อเนกประสงค์ ที่มีความสามารถครอบคลุมทุกความต้องการ มีจุดเด่นในการ เพิ่มเวลาในการตอบสนองและตัดสินใจ ทิ้งร่องรอยเรดาร์ต่ำ สามารถตรวจการณ์การเคลื่อนใหวของเป้าหมายทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ

จุดเด่น ของเรดาร์ 3 มิตติ

• สามารถตรวจการณ์ในอากาศและติดตามการรบกวนสัญญาณเรด้าของข้าศึกได้
• สามารถตรวจการณ์และติดตามการเคลื่อนใหวของข้าศึกบนฝั่งได้
• สามารถแจ้งเตือนกระสุนปืนคอและตรวจจับสถานที่ที่กระสุนยิงออกมาได้
• สามารถแยกเป้าหมายประเภทต่างๆได้ แม้กระทั้งการเคลื่อนใหวขึ้นลงของเฮลิคอปเตอร์ 
• สามารถชี้เป้าให้จรวดต้อสู่ป้องกันภัยทางบก ทางเรือและทางอากาศได้อย่างแม่นยำ
• สามารถสนับสนุนการยิงปืนใหญ่ประจำเรือ 

สามารถตรวจจับได้ในระยะไกล-ไกล้ ค้นหาเป้าหมายได้ในทุกองศา แม้กระทั่งเป้าหมายที่มีขนาดเล็กเช่น กระสุนปืนใหญ่ ปืนคอ เครื่องบิน และ จรวดต่อต้านความเร็วสูง เพื่อให้กองเรือสามารถใช้อาวุธป้องกันภัย(ESSM)ได้ทันท่วงที



เรดาร์ได้รับการทดสอบทุกสภาพแวดล้อม ในพื้นที่ที่กว้างขวาง เพื่อยืนยันในความถูกต้องแม่นยำว่าเรดาร์สามารถทำการค้นหาใด้เต็มประสิทธิภาพทุกวินาที มีลูกค้าให้การไว้วางใจกว่า 20ประเทศทั่วโลก

TECHNICAL DATA ข้อมูลทางเทคนิค

Radar type Stacked beam 3D radar Antenna type 3D phased array, digital beam forming
Frequency C (G/H)-band
Elevation coverage > 70 degrees
Rotation rate 60 RPM
Instrumented range 180 km
Capacity/ ความสามารถในการตรวจจับ

- Air > 200 tracks
- Surface > 400 tracks
- Rocket/Artillery/Mortar > 100 tracks/min

Power consumption 15 kW
Stabilisation
Electronic
Data interface
Ethernet
Power supply MIL-STD 1399 type 1

ระบบอำนวยการรบ 9LV ของ Saab ที่ใช้ในเรือชุดเรือหลวงนเรศวร และ เรือหลวงจักรีนฤเบศร

9LVเป็นระบบอำนวยการรบที่ครอบคลุมและทันสมัยที่สุดระบบหนึ่งของโลก ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบเปิด แบ่งเป็นโมดูล จึงทำให้สามารถเชื่อมต่อ ควบคุม กับอาวุธยุทโธปกรณ์ของค่ายอื่นได้ง่าย มีการเชื่อมต่อระบบ C4I* ที่สมบูรณ์แบบ จึงทำให้นำข้อมูลข่าวสารที่ได้รับเอามาปรับใช้ได้อย่างทันท่วงที ทำให้ได้เปรียบในการรบ

สามารถนำระบบไปติดตั้งกับเรือตรวจการณ์ เรือลาตระเวณ เรือฟริเกต เรือบรรทุกเครื่องบิน และเรือดำน้ำ
เพื่อช่วยในการอำนวยการรบ ควบคุมอาวุธ อย่างบูรณาการ และ ใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์ต่างๆได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

โดยระบบอำนวยการรบ 9LV มีความสามารถโดดเด่นในการปฎิบัติภารกิจ สนับสนุน ต่อต้าน สู้รบ ทุกประเภทจากชายฝั่งไปจนถึงทะเลเปิด ป้องกันการละเมิดสิทธิ์ การรักษาความปลอดภัยและเฝ้าระวังทางทะเล

มีสามารถในการเชื่อมต่อกับเครื่องบิน Saab 340 ERIEYE ที่มีระะบบเรด้าร์แจ้งเตือนภัย เครื่องบินขับไล่ GRIPEN และ เรือรบต่างๆที่ได้ติดตั้งระบบดาต้าลิ้ง เพื่อรับส่งแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร อย่างบูรณาการ
และสามารถใช้เรือเป็นจุดศูนย์กลางในการควบคุมสั่งการภาระกิจทางอากาศในทะเลได้อีกด้วย

*
C4I คือ
การควบคุม บังคับบัญชา การสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ และการข่าวกรอง (C4I) แบ่งเป็น

C1 = Control        การควบคุม

C2 = Command        บังคับบัญชา

C3 = Communication  การสื่อสาร

C4 = Computer       คอมพิวเตอร์

I  = Intelligence   การข่าวกรอง

ขอขอบคุณ
www.saab.com
http://www.oknation.net/blog/c4isupsri/2009/02/08/entry-1

ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล๊อกส่วนตัว

    บล๊อกนี้จัดทำเพื่อสนองตอบต่อความชอบความคลั่งไคร้ส่วนตัวที่มีต่อเทคโนโลยีและอาวุธยุธโทปกรณ์ทางทหาร โดยข้อมูลส่วนใหญ่ไม่สามารถหาอ่านได้เป็นภาษาไทยได้ จึงจัดทำเป็นภาษาไทยเพื่อให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ได้สามารถเข้ามาอ่านและแลกเปลี่ยนความรู้ทางด้านเทคโนโลยีและอาวุธยุธโทปกรณ์ทางการทหาร 

         ขอให้เพื่อนๆทุกคนมีความสุขกับการอ่านหากผิดพลาดประการใดมือใหม่ขออภัยมา ณ โอกาศนี้ด้วย ผมพร้อมรับคำติชมต่างๆครับ

                                                                         Kunakorn.